วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

รองเท้าสายพันธุ์ความเร็ว

adiZero F50 2012 - Leather : เป็นมากกว่ารองเท้าสายพันธุ์ความเร็ว


       สิ้นสุดการรอคอยแล้ว  วันนี้ SiamBoots จะมารีวิวรองเท้าฟุตบอลอาดิดาส รุ่น adiZero F50 2012 เวอร์ชั่นหนังวัวแท้ พร้อมที่จะจัดแบบเต็มๆ ตามสไตล์การรีวิวทดสอบการใช้งานของเรา  เพราะเชื่อว่านี่คือหนึ่งในรองเท้าฟุตบอลรุ่นนี้มีผู้คนรอคอยการรีวิวมากที่สุดรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้  กับรองเท้าฟุตบอลสายพันธุ์ความเร็วหนังวัวแท้ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงสุด

Predator® Lethal Zones


Predator® Lethal Zones : รองเท้าสายพันธุ์ "คอนโทรล" ที่ยังคงมีกลิ่นอายความดุดัน
ของสายเลือด "นักล่า"


        อาดิดาส Predator® Lethal Zones คือการเปลี่ยนเจเนอเรชั่นที่สร้างความฮือฮาประจำปี 2012 ได้มากที่สุด
สำหรับวงการรองเท้าฟุตบอล  และถือเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวตนจากรองเท้าฟุตบอลพันธุ์ดุ  ให้กลายมาเป็น
รองเท้าฟุตบอลสายพันธุ์ "คอนโทรล" อย่างสมบูรณ์แบบมากกว่าคราว adiPOWER Predator® เสียด้วยซ้ำ


Copa X-Treme II


Copa X-Treme II : หนังวัวแท้หนานุ่มแถมยิงมันส์  คุ้มค่าเกินราคา  แม้ว่าเทคโนโลยี
จะน้อยไปนิดก็เถอะ 


       รีวิวทดสอบการใช้งานครั้งนี้  ขอเปลี่ยนบรรยากาศจากแบรนด์นอกมาเป็นรองเท้าฟุตบอลสัญชาติไทยแท้ๆ กับ "แกรนด์สปอร์ต" แบรนด์ที่คนไทยทุกคนนั้นรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

CTR 360 Maestri III

CTR 360 Maestri III : ชื่อนี้..รุ่นนี้..ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่นิดเดียว

  
     ถ้าถามว่ารองเท้าฟุตบอลรุ่นใหม่จากทางฝั่งไนกี้  ปีนี้มีอะไรน่าสนใจและได้รับการติดตามรอคอยจาก
ผู้ใช้งานมากที่สุด  แน่นอนว่าเจเนอเรชั่นที่ 3 ของซีรี่ย์เก่งรอบด้าน CTR 360  จะต้องเป็นคำตอบ
อันดับต้นๆ ของหลายๆ คนอย่างจริงแท้แน่นอน  และวันนี้...บทความนี้  SiamBoots จะพาทุกท่านมาร่วม
กันทดสอบการใช้งาน  รองเท้าฟุตบอลไนกี้รุ่น CTR 360 Maestri III ว่าพร้อมที่จะมาทวงตำแหน่ง
รองเท้าฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีคืน

adiPure 11Pro


 adiPure 11Pro : รองเท้าคลาสสิคที่ใส่สบาย  คล่องตัว  และยิงมันส์เต็มเท้า


    อาดิดาส adiPure 11Pro คือซีรี่ย์รองเท้าฟุตบอลประเภทคลาสสิค  เจเนอเรชั่นที่ 5 ของตระกูล adiPure
ที่ค่ายแถบสามขีดเปิดตัวทำตลาดในปี 2012 นี้  ที่ถูกปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น  แต่ยัง
คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และตัวตนของรองเท้าฟุตบอลประเภทเก๋าเรียกพ่อเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม

Predator® Lethal Zones SL


Predator® Lethal Zones SL : ครบเครื่องตามแบบฉบับของรองเท้าสายคอนโทรล
ในอารมณ์ที่แตกต่างจากรุ่น LZ 


      ยังคงเป็นคำถามที่ถกเถียงกันไม่สิ้นสุด  ว่ารองเท้าฟุตบอลระดับโครตท็อปจากอาดิดาส  ที่รหัส "SL"
เป็นชื่อต่อท้าย  นั้นมีดีอย่างไร  ในขณะที่ราคาค่าตัวกระโดดสูงขึ้นจากรุ่นท็อปปกติอย่างมากมาย  วันนี้
SiamBoots ขอเชิญทุกท่านมาหาคำตอบถึงประสิทธิภาพการใช้งานของ Predator® Lethal Zones SL
ไปพร้อมๆ กัน

Mercurial Vapor VIII CR

Mercurial Vapor VIII CR : เวอร์ชั่นพิเศษที่น่าใช้ขึ้นกว่าเดิม


           วันนี้เราจะมารีวิวทดสอบการใช้งาน ไนกี้ Mercurial Vapor VIII CR รองเท้าเวอร์ชั่นซิกเนเจอร์ของนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกคนปัจจุบันอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลง
ทางด้านดีไซน์การออกแบบ  วัสดุและเทคโนโลยี  จึงน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่าประสิทธิภาพการใช้งานจริงของรองเท้าฟุตบอลที่ถูกโหวดตว่าเป็นรองเท้าสีดำ ที่สวยที่สุดแห่งปีคู่นี้

วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

“เฟอร์กี Black Eyed Peas” ท้องลูกคนแรกแล้ว

“สเตซีย์ เฟอร์กูสัน” หรือที่รู้จักกันเป็นอย่างดีกับชื่อ “เฟอร์กี” นักร้องสาวจากวง Black Eyed Peas ที่เพิ่งขอพักงานจากวงเพื่อเดินหน้าสร้างครอบครัว ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ประกาศข่าวดีเป็นที่เรียบร้อยว่ากำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรกแล้ว
       
       เฟอร์กี และ จอช ดูฮาเมล นักแสดงหนุ่มชื่อดังได้ประกาศข่าวดีอย่างตื่นเต้น โดยระบุว่าพวกเขาลังจะได้เป็นพ่อแม่คนในปีนี้แล้ว “จอชกับฉันและลูกน้อยเราจะกลายเป็น 3 คนแล้ว!” เฟอร์กี ประกาศข่าวดีผ่านทางทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเธอยังแชร์ภาพถ่ายรูปเธอและจอชสามีในตอนเด็กให้แฟนๆ ได้ชมด้วย
       
       “พวกเขาเพิ่งรู้เรื่องและทวีตบอกให้โลกรู้” แหล่งข่าววงในเผย นอกจากเฟอร์กี จะดีใจกับข่าวนี้แล้วทางจอชก็ไม่น้อยหน้าประกาศข้อความเดียวกันในทวิตเตอร์และเฟซบุ๊คของเขาเช่นกัน
       
       เฟอร์กีและจอชแต่งงานกันตั้งแต่เดือน ม.ค.ปี 2009 โดยเปิดใจว่าพวกเขาจะเริ่มต้นชีวิตครอบครัวอย่างจริงจังเมื่อปี 2012 ขณะออกรายการ Next Chapter ของโอปราห์ ซึ่งจอช นักแสดงหนุ่มวัย 40 ปี ได้กล่าวว่าเขาหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะมีลูกถึง 5 คน แต่นักร้องสาววัย 37 ปีรีบเบรกทันทีโดยระบุว่ามีการทำข้อตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่าเธอขอแค่สองคนพอ
       
       จอช ยังกล่าวชื่นชมภรรยาสาวคนสวยของเขาด้วย "พวกเราโตมาแบบคล้ายๆ กัน แม่ผมเป็นครู พ่อแม่ของเธอก็เป็นครูทั้งสองคน เราทั้งคู่ทำงานในแบบที่เราอยากทำ แล้วเราสองคนก็เป็นคาธอลิกเหมือนกัน มีอีกหลายอย่างที่ค่อนข้างคล้ายกันมากๆระหว่างพวกเราสองคน แต่ท้ายสุดแล้วเธอเป็นผู้หญิงที่มหัศจรรย์มากๆ คนหนึ่งเลยครับ”





      

ซัดกันเละ แฟนคลับ "สรยุทธ" vs "ซูเปอร์ จูเนียร์"

 ชาวเน็ตซัดกันเละกรณีนักเล่าข่าวคนดัง "สรยุทธ" ทำสนิทโอบไหล่ "ซองมิน" วง "ซูเปอร์ จูเนียร์" ก่อนถูกเพื่อนสมาชิกบอยแบนด์ดังเกาหลีดึงมือออก แฟน SJ บอกสมควร ขณะที่อีกส่วนมองใหญ่มาจากไหนถึงโอบไม่ได้
       ยังคงกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ภายหลังจากที่รายการ "เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์" โดยผู้ประกาศคนดัง "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" ได้เชิญบอยแบนด์ชื่อดังจากเกาหลี "ซูเปอร์ จูเนียร์" (SJ) มาออกรายการดังกล่าวแบบสดๆ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
      
        ทั้งนี้จุดที่กลายเป็นประเด็นขึ้นมาก็สืบเนื่องจากระหว่างที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้นทางฟากของผู้ประกาศข่าวได้เอื้อมมือขึ้นไปโอบไหล่ของ "ซองมิน" หนึ่งในสมาชิกของวงที่กำลังนั่งตอบคำถามอยู่ ก่อนที่ทาง "เฮนรี่ จาง" อีกหนึ่งสมาชิกของวงที่นั่งอยู่ด้านหลังจะเอื้อมมือมาดึงมือของผู้ประกาศคนดังออกพร้อบกับทำท่าทางในลักษณะที่ว่าทำแบบนี้ไม่ได้ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับมีอาการหน้าเหวอขึ้นมาเล็กน้อย อย่างไรก็ตามการสัมภาษณ์ในวันนั้นก็จบลงไปได้ด้วยดีโดยไม่มีปัญหาอะไร
      
        ซึ่งหลังจากที่ภาพดังกล่าวเผยแพร่ออกมาปรากฏว่าเรื่องนี้ได้กลายเป็นข้อถกเถียงกันเป็นอย่างมากในโลกออนไลน์และยังคงมีมาตลอดจนถึงขณะนี้ โดยในส่วนของแฟนคลับของบอยแบนด์จากเกาหลีนั้นมองว่าการกระทำดังกล่าวของนักเล่าข่าวคนดังสมควรแล้วที่จะถูกต่อว่า เพราะดูไม่เหมาะสมเหมือนกับว่าจะไปแสดงความสนิทสนมกับอีกฝ่ายมากจนเกินไป โดยที่บางคนยังให้ความเห็นด้วยว่าการโอบไหล่ของคนเกาหลีนั้นเป็นการกระทำที่เหมือนกับไม่ให้เกียบรติกันคล้ายกับการจับหัวคนไทยโดยที่ทั้งคนจับและคนโดนจับต่างก็ไม่ได้มีความสนิทสนมชิดเชื้อกันเป็นพิเศษมากมายนั่นเอง
      
        อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีอีกฝ่ายหนึ่งที่มองว่ามองว่าการกระทำของสมาชิกบอยแบนด์ชื่อดังจากเกาหลีนั้นดูเหมือนจะเป็นการเล่นตัวจนมากเกินไป พร้อมกับยังบอกด้วยว่าจริงๆ แล้วการโอบไหล่ของเกาหลีนั้นถือเป็นเรื่องปกติที่ใครต่อใครก็สามารถทำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นผู้ใหญ่กระทำต่อผู้น้อย พร้อมกับถามกลับด้วยว่าแล้วสมาชิกของวง "ซูเปอร์ จูเนียร์" นั้นเป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหนถึงจะถูกคนที่เชิญมาออกรายการโอบไหล่ไม่ได้
      
       

ซื้อแบบไหน เลือกยังไงดี


รองเท้าฟุตบอล ซื้อแบบไหน เลือกยังไงดี ??

หลายๆท่านคงมีคำถามอยู่ในใจว่า รองเท้าฟุตบอล ที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วไป แต่ละรุ่น แต่ละ Brand นั้นจะแตกต่างกันอย่างไร และเราควรจะเลือกซื้อ แบบไหนดี..
ในความเป็นจริงแล้วการเลือกซื้อ รองเท้า สักคู่หนึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แม้กระทั่ง รองเท้า แตะอยู่กับบ้าน เรายังต้องเลือกรองเท้าที่ใส่สบาย นุ่ม กระชับเท้าและมีพื้นรองเท้าที่ยึดเกาะพื้นผิวได้ดี ดังนั้นคงไม่แปลกอะไร ถ้าเราจะต้องพิถีพิถันในการเลือกซื้อรองเท้ากีฬาสักคู่หนึ่ง วันนี้จึงขอเสนอแนะวิธีการเลือกรองเท้าฟุตบอลที่เหมาะกับท่าน
หลักในการพิจารณาเลือก รองเท้าฟุตบอล ก็แบ่งออกเป็น 2 ประการสำคัญดังนี้
ประการแรก เราจะต้องพิจารณาจากจำนวนปุ่มที่อยู่ใต้พื้น รองเท้าฟุตบอล หรือที่เรียกกันว่า "ปุ่ม STUD" ซึ่งจำนวนและประเภทของเจ้าปุ่มที่ว่านี้ มีความสำคัญมาก เนื่องจากเจ้าปุ่ม STUD นี้จะอยู่บริเวณพื้น รองเท้าฟุตบอล หรือที่เรียกกันว่า OUTSOLE ซึ่งมีผลต่อการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่ และการยึดเกาะบนพื้นสนาม ขณะเล่นฟุตบอลด้วย ดังนั้นการเลือกประเภท ของปุ่ม STUD จำเป็นจะต้องคำนึงถึงลักษณะของสนามที่จะลงเล่นเป็นสำคัญ เพราะปุ่ม STUD แต่ละประเภทได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับพื้นผิวของสนาม ที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. SOFT GROUND สำหรับพื้นสนามที่นุ่ม จะมีลักษณะของปุ่ม STUD เป็นจำนวนน้อย ส่วนใหญ่จะมีเพียง 6 ปุ่ม ต่อรองเท้าฟุตบอล 1 ข้างเท่านั้น ปุ่มประเภทนี้เหมาะสำหรับ พื้นหญ้าที่มี ความนุ่มนวล ส่วนใหญ่จะเป็น สนาม ฟุตบอลใหญ่ๆ หรือสนามฟุตบอลอาชีพ
2. FIRM GROUND สำหรับพื้นสนามทั่วไป จะมีลักษณะของปุ่ม STUD ประมาณ 12 - 15 ปุ่ม ต่อ รองเท้าฟุตบอล 1 ข้าง ปุ่ม STUD ชนิดนี้เหมาะสำหรับพื้นสนามทั่วไปและ สนามที่พื้นค่อนข้างแข็ง พื้น STUD รูปแบบนี้เป็นที่นิยมและเหมาะสมมาก สำหรับสนามในเมืองไทย
3. HARD GROUND สำหรับพื้นสนามที่แข็งมาก จะมีจำนวนของปุ่ม STUD มากกว่า 15 ปุ่ม ต่อ รองเท้าฟุตบอล  1 ข้าง ซึ่งรองเท้าที่มีปุ่มชนิดนี้ได้ พัฒนามาจาก STUD ของรองเท้าประเภท FIRM GROUND เหมาะสำหรับพื้นสนามที่มีความแข็ง มากเป็นพิเศษ
ประการที่สอง จะต้องพิจารณาจากหน้าผ้า หรือที่เรียกกันว่า "UPPER" ด้วย เพราะหน้าผ้าหรือส่วนของตัว รองเท้าฟุตบอล ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญซึ่งทำหน้าที่ ห่อหุ้มและปกป้องเท้าของผู้สวมใส่ ช่วยในการควบคุมการเคลื่อนไหวของเท้า
ดังนั้นการเลือกประเภทของ รองเท้าฟุตบอล โดยพิจารณาจากประเภทวัสดุที่ใช้ทำหน้าผ้าจึงเป็นสำคัญอย่างมาก เพราะวัสดุแต่ละประเภทที่ใช้ทำหน้าผ้าจะให้ผลที่ต่างกันดังนี้
1. หน้าผ้าที่ทำจากหนังแท้ หรือ FULL GRAIN LEATHER จะให้ความทนทานสูง พื้นผิวมีความนุ่มนวล ให้การสัมผัสบอลที่ดีเป็นธรรมชาติ แต่รองเท้าชนิดนี้จะมีราคาสูง
2. หน้าผ้าที่ทำจากหนังเทียม หรือ SYNTHETIC LEATHER จะให้ความทนทาน ที่ต่ำกว่า รองเท้าฟุตบอล ที่ทำจากหนังแท้ แต่ รองเท้าฟุตบอล ชนิดนี้จะมีน้ำหนักที่เบากว่า และคงรูปได้นานกว่าหนังแท้ โดยเฉพาะเรื่องราคาจะถูกกว่า  รองเท้าฟุตบอล ที่ทำจากหนังแท้มาก
รองเท้าฟุตบอล

" รองเท้าฟุตบอล ที่ขายดีที่สุด Best of Seller 2007" มีรุ่นไหนกันบ้างนั้น ติดตามพร้อมกันเลย..
 
อันดับ 10. Prior II Lever
     เป็นรองเท้าสตั๊ด รองเท้าฟุตบอล ที่ ต้องสั่งทำพิเศษ ดังนั้นราคาจะรวมอยู่ใน การวิเคราะห์ลักษณะของเท้าของผู้สวมใส่และการแก้ไขความผิดปกติของเท้าของแต่ ละคนอีกด้วย แต่ไม่มีซูเปอร์สตาร์คนไหนใส่ รองเท้าฟุตบอล รุ่นนี้เลย (ไหง... เป็นงั้นไป)


อันดับ 09. Nomis Glove
     รองเท้าสตั๊ด รองเท้าฟุตบอล สัญชาติ ออสซี่ จะใช้ได้ดีในสภาพสนามที่เปียกแฉะ เพราะจะทำให้ดินและโคลนไม่เกาะที่ตัวรองเท้า ราคาสำหรับรุ่นนี้อยู่ที่ 120 ปอนด์ หรือประมาณ 7,320 บาท ครับ สำหรับนักฟุตบอลที่ใส่ รองเท้าฟุตบอล รุ่นนี้ คือ "แฮรี่ คีเวลล์" อดีตกองกลาง "หงส์แดง"

 

อันดับ 08. Hummel 8.4 Pio
     รองเท้าสตั๊ด รองเท้าฟุตบอล สัญชาติ เดนมาร์ก ได้รับการโหวตให้โดดเด่นในเรื่องการดีไซน์ลายบนตัวรองเท้า น้ำหนัก 304 กรัม โดยใช้วัสดุที่ทำจากหนังแพะ ราคา 120 ปอนด์ หรือประมาณ 7,320 นักฟุตบอลที่ใส่ รองเท้าฟุตบอล รุ่นนี้คือ "เดนนิส รอมเมดาห์ล" ปีกทีมชาติเดนมาร์ก ของอาแจ็กซ์

 

อันดับ 07. Mizuno Morelia      รองเท้าสตั๊ด รองเท้าฟุตบอล สัญชาติ ญี่ปุ่น มีความกระชับและยืดหยุ่น ทำจากหนังจิงโจ้ รุ่นนี้ไม่ได้ระบุราคาครับ

 

อันดับ 06. Mitre Vortex Pro
     รองเท้าสตั๊ด รองเท้าฟุตบอล สัญชาติอังกฤษ แต่เริ่มห่างไกลความนิยมต่างจากเมื่อก่อนลิบลับ ยิ่งเทียบกับ Umbro แล้ว ยิ่งห่างชั้นกันเข้าไปใหญ่ (- _ -")

 

อันดับ 05. Lotto Zhero Gravity      รองเท้าสตั๊ด รองเท้าฟุตบอล สัญชาติ อิตาเลี่ยน และเป็นรองเท้าประจำกายของ "ลูก้า โทนี่" กองหน้า บาร์เยิร์น มิวนิค เป็นรองเท้ารุ่นเดียวที่ไม่ต้องใช้เชือกผูก แค่จับเท้ายัดลงไปเป็นอันเสร็จพิธี วัสดุทำจากไมโครไฟเบอร์กันน้ำได้ ราคา 140 ปอนด์ หรือประมาณ 8,540 บาท และนักฟุตบอลที่ใช้รุ่นนี้อีกคนก็คือ คาฟู อดีตกองหลังปีศาจแดง-ดำ

 

อันดับ 04. Puma V.106
    รองเท้าสตั๊ด รองเท้าฟุตบอล Puma V.106  มีน้ำหนักเบา วัสดุทำมาจาก คาร์บอนไฟเบอร์
นักฟุตบอลที่ใส่รุ่นนี้อันได้แก่ ปีเตอร์ เคร้าช์, เจมี่ คาร์ราเกอร์, เนมานย่า วิดิช

 

อันดับ 03. Umbro X-Boot III      รองเท้าสตั๊ด รองเท้าฟุตบอล เป็นแบรนด์อันดับหนึ่ง ของอังกฤษ วัสดุทำมาจากสารเคลือบพิเศษที่ได้รับการพัฒนาจากบริษัทยางรถยนต์ชื่อดังของ โลกอย่าง Michelin นักฟุตบอลที่ใส่รุ่นนี้ ไมเคิ่ล โอเว่น,เดวิด เจมส์,จอห์น เทอร์รี่

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

4 แข้งดัง เปิดตัวสตั๊ด “ไนกี้” รุ่นใหม่

4 แข้งดัง เปิดตัวสตั๊ด “ไนกี้” รุ่นใหม่









             โรนัลโด้, อินเนียสต้า, รูนีย์ และ ปิเก้ 4 นักเตะซูเปอร์สตาร์ระดับโลก ร่วมเผยโฉมรองเท้าฟุตบอลคอลเลคชั่นล่าสุดจากไนกี้ “ไนกี้ ออล คอนดิชันส์ คอนโทรล” เพิ่มประสิทธิภาพอันทรงพลังในการสัมผัสบอลและควบคุมจังหวะของเกมในทุกสภาพสนามแข่งขัน

Mercurial Vapor IV SL E8 - ฟรองค์ ริเบรี่


 Mercurial Vapor IV SL E8 - ฟรองค์ ริเบรี่



             Mercurial Vapor IV SL E8 - ฟรองค์ ริเบรี่  รองเท้าฟุตบอลจรวดทางเรียบรุ่นนี้
ถูกใส่ลงสนามโดยปีกตัวเองทีมชาติฝรั่งเศษ "ฟรองค์ ริเบรี่" ใส่ลงสนามทำศึกยูโร 2008
ซึ่งเป็นรองเท้าฟุตบอลรุ่น Mercurial Vapor IV SL E8  บอกได้คำเดียวว่าสุดยอด !

Mercurial Vapor I - เธียร์รี่ อองรี


Mercurial Vapor I - เธียร์รี่ อองรี 



               Mercurial Vapor I - เธียร์รี่ อองรี  เชื่อว่าคนเล่นรองเท้าฟุตบอลหลายต่อหลายคนคงรู้
ว่ารองเท้าฟุตบอลรุ่น Mercurial Vapor I สีนี้นั้นถูกจัดเป็นของหายากขนาดไหน  และเมื่อ
ยิ่งเป็นรองเท้าคู่ที่ยอดดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศษใส่ลงล่าตาข่ายในแก่ต้นสังกัด "ไอ้ปืนใหญ่"
อาร์เซน่อล  ด้วยแล้วล่ะก็...รองเท้าคู่นี้มันจะสุดยอดมากแค่ไหนคงไม่ต้องบรรยายแล้วล่ะ

Mercurial Vapor I - โรนัลโด้


Mercurial Vapor I - โรนัลโด้ 



               Mercurial Vapor I - โรนัลโด้  นี่คือต้นตำรับความรุ่งเรืองของตระกูล Mercurial Vapor
เพราะรองเท้าคู่นี้คือรองเท้าที่ "โล้นทองคำ" โรนัลโด้  ใส่ลงสนามโชว์ลีลาลากเลื้อยและ
สังหารประตูคู่แข่งด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของเขา

Mercurial Vapor III - ซลาทัน อิบราฮิโมวิค


Mercurial Vapor III - ซลาทัน อิบราฮิโมวิค



            Mercurial Vapor III - ซลาทัน อิบราฮิโมวิค  จรวดทางเรียบของดาวยิ่งชาวสวีดิช
คู่นี้  อาจจะไม่แตกต่างจากรุ่นที่วางขายทั่วไปมากนัก  มีเพียงการปักชื่อและเบอร์เสื้อสมัย
ที่ยังค้าแข้งอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน เท่านั้น  แต่เมื่อลองพลิกดูไซด์รองเท้าแล้วจะต้องถึง
กับตกใจ  เพราะรองเท้าฟุตบอลคู่นี้มีไซด์ใหญ่ถึง 31.0 cm !

Predator X - สตีเว่น เจอราร์ด

Predator X - สตีเว่น เจอราร์ด


Kronos - อริสโต้ สตอยคอฟ


 Kronos - อริสโต้ สตอยคอฟ



              Kronos - อริสโต้ สตอยคอฟ  รองเท้าฟุตบอลยี่ห้อ Kronos คู่นี้คือรองเท้าคู่ใจของ
ยอดกองหน้าเท้าหนัก  อริสโต้ สตอยคอฟ  สมัยที่ยังค้าแข้งอยู่กับสโมสรบาร์เซโลน่า
หลายคนอาจจะแปลกใจว่ารองเท้าฟุตบอลยี่ห้อ Kronos นั้นจะถูกใส่โดยสุดยอดนักเตะ
ด้วยเหรอ...ซึ่งผมก็แปลกใจเหมือนกัน !?

T90 Laser II K - พอล สโคลล์


 T90 Laser II K - พอล สโคลล์



              T90 Laser II K - พอล สโคลล์  อาจจะแปลกใจว่าทำไมถึงลงชื่อรุ่นด้วยตัว "K" เพราะ
ปกติแล้วรองเท้ารุ่นนี้สีนี้ที่ไนกี้ผลิตขายในท้องตลาดจะเป็นหนังสังเคราะห์ไมโครไฟเบอร์
แต่รองเท้าคู่นี้ที่ถูกใส่ลงสนามโดย พอล สโคลล์ ได้ถูกดัดแปลงให้ใช้หนังจิงโจ้แท้มา
ผลิตเป็นตัวรองเท้า  เท่านั้นยังไม่พอ  เพราะชุดพื้นและปุ่มก็ถูกดัดแปลงให้แตกต่างออกไป
ด้วยชุดพื้นและปุ่มใส ใช้แนวการวางปุ่มแบบเดียวกับรุ่น T90 Laser I

Predator Mania - เดวิด เบ็คแฮม


    Predator Mania - เดวิด เบ็คแฮม 



           Predator Mania - เดวิด เบ็คแฮม  รองเท้าคู่นี้เป็นคู่ที่เดวิด เบ็คแฮม ใส่ลงสนามสมัย
ที่ยังค้าแข่งอยู่กับแมนฯยูฯ  จะว่าไปแล้วรองเท้าคู่นี้นับเป็นรองเท้าสีขาวคู่แรกๆ ที่ถูกใช้
ลงสนามแข่งขัน  จนกระทั่งเกิดความนิยมในการใส่รองเท้าฟุตบอลสีขาวลงสนามในเวลา
ต่อมา

Predator X DB - เดวิด เบ็คแฮม


 Predator X DB - เดวิด เบ็คแฮม



              Predator X DB - เดวิด เบ็คแฮม  รองเท้าฟุตบอลคู่นี้คือคู่ที่เจ้าพ่อลูกนิ่ง เดวิด เบ็คแฮม
ใช้ลงสนามตอนที่ย้ายมาค้าแข้งแบบยืมตัวกับสโมสร เอซี มิลาน  สิ่งที่พิเศษกว่ารุ่นที่ขายใน
ท้องตลาดที่นอกเหนือจากปักชื่อลูกทั้งสามคน  ตราสโมสรเอซี มิลาน  เบอร์เสื้อที่สวมใส่
และชื่อเรียกของสโมสรในวงการฟุตบอล  ชุดพื้นและปุ่มยังได้ถูกดัดแปลงให้เป็นแบบ
รุ่น Power Swerve อีกด้วย  นอกจากนั้นเมื่อได้ลองสัมผัสหนังสังเคราะห์ไมโครไฟเบอร์ของ
รองเท้ารุ่นนี้แล้ว  ขอบอกเลยว่าหนังสังเคราะห์ของรองเท้าคู่นี้นั้นมีความนุ่มเป็นพิเศษ
มากกว่าแบบที่อาดิดาสผลิตออกมาขาย  เรียกได้ว่ามันนุ่มจนแทบจะเท่าหนังจิงโจ้เลยล่ะ !!

F50.7 - ลีโอเนล เมสซี่


 F50.7 - ลีโอเนล เมสซี่



            F50.7 - ลีโอเนล เมสซี่  นี่คือรองเท้าฟุตบอลที่ซุปเปอร์สตาร์ต่างดาวใช้สมัยที่เริ่มแจ้งเกิด
ในวงการฟุตบอล  กับรองเท้าฟุตบอลอาดิดาสรุ่น F 50.7 เอ๊ะ !? หรือจะเรียกว่า F 30.7 ดีนะ
เพราะรองเท้าคู่นี้ใช้ตัวรองเท้า (อัพเปอร์) ของรุ่น F 50.7  และใช้ปุ่มรองเท้าและชุดพื้น
ของรุ่น F 30.7  โดยมีการปรับแต่งปุ่มรองเท้าให้มีบริเวณตรงกลางปุ่มนูนเพิ่มขึ้นมาอีก ไม่รู้ว่า
มีประโยชน์ในเรื่องของการเพิ่มความสามารถในการยึดเกาะและออกตัวกับพื้นสนามหรือไม่
และที่บริเวณหลังเท้าซึ่งเป็นแผ่นปิดเชือกจะมีการปักตราทีมชาติอาร์เจนติน่า

T90 Laser III Elite World Cup 2010


 T90 Laser III Elite World Cup 2010



 T90 Laser III Elite World Cup 2010 - รีโอ เฟอร์ดินาน  แม้ว่ากองหลังตัวเก่งทีมชาติอังกฤษ
จะบาดเจ็บจนไม่ได้ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้  แต่ไนกี้ก็ได้ผลิต
รองเท้าเฉพาะตัวของ รีโอ เฟอร์ดินาน ออกมาก่อนหน้านั้นแล้ว  โดยไนกี้ T90 Laser III Elite
World Cup 2010 คู่นี้จะใช้หนังจิงโจ้แท้มาผลิตเป็นหน้าผ้าและตัวรองเท้า  จะแตกต่างจากรุ่น
ที่วางขายในท้องตลาดซึ่งหน้าผ้าและตัวรองเท้าจะใช้หนังสังเคราะห์เทจิน ไมโครไฟเบอร์นั่นเอง

Predator - ซีเนอดีน ซีดาน


  Predator -  ซีเนอดีน ซีดาน



               Predator Mania - ซีเนอดีน ซีดาน  แม้ว่าจะแขวนสตั๊ดไปแล้ว  แต่ชื่อของซีเนอดีน ซีดาน
ก็จะยังอยู่ในความทรงจำของแฟนฟุตบอลทั่วโลก  และผมเชื่อว่ามีนักเตะหลายต่อหลายคนที่เอา
อดีตจอมทัพทีมชาติฝรั่งเศษเป็นแรงบันดาลใจในการเล่นฟุตบอล  และที่เห็นนี้คือรองเท้าฟุตบอล
รุ่น Predator Mania สมัยที่ซีดานใช้ตอนเล่นให้กับทีมเรอัล มาดริด  สำหรับรองเท้าคู่นี้มีเพียงแค่
การปักชื่อที่ลิ้นของรองเท้าเท่านั้น  ไม่ได้มีการดัดแปลงให้แตกต่างจากคู่ที่วางขายในท้องตลาด
แต่อย่างใด

CTR 360 Maestri Elite World Cup 2010


 CTR 360 Maestri Elite World Cup 2010



              รองเท้าแชมป์โลก !! - คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าไนกี้ CTR 360 Maestri Elite World Cup 2010 คู่นี้
จะเป็นหนึ่งในคู่ที่น่าสนใจมากที่สุด  เพราะเป็นคู่ที่ อันเดรียส อินิเอสต้า ใช้ซัลโวประตูชัยพาทีมชาติ
สเปน คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 มาพร้อมกับกล่องเซฟพิเศษที่ทำออกมาเพื่อรองเท้าคู่นี้โดยเฉพาะ
สำหรับรหัสน่ะเหรอ !? คงเดาได้ไม่ยากเท่าไหร่มั้ง !!


Nike GS


Nike GS

ไนกี้ ผู้นำนวัตกรรมกีฬาระดับโลกเปิดตัวรองเท้าฟุตบอลรุ่นใหม่ ล่าสุด “ไนกี้ จีเอส”  ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในโลกภายใต้แนวคิดการออกแบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทีมนักออกแบบของไนกี้ ได้คิดค้นและออกแบบรองเท้าสตั๊ดรุ่น ไนกี้ จีเอส หรือ ไนกี้ กรีน สปีด รองเท้าฟุตบอลที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในโลกเพียง 160 กรัม และมีน้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่ไนกี้เคยผลิตมา
ผลิตโดยใช้วัสดุที่มีส่วนประกอบทางชีวภาพที่ทำมาจากเมล็ดละหุ่งและวัสดุรีไซเคิล ที่ทำให้รองเท้ามีความแข็งแรงทนทาน มีความยืดหยุ่นสูง และน้ำหนักเบา เหมาะกับผู้เล่นที่ต้องใช้จังหวะในการควบคุมความเร็วระหว่างเกมการแข่งขัน การออกแบบรองเท้าฟุตบอลรุ่น ไนกี้ จีเอส ได้ถูกดีไซน์ด้วยวิธีการปรับลดน้ำหนักของวัสดุที่ไม่จำเป็นออกอย่างเหมาะสม และคิดค้นวิธีการผลิตแบบใหม่ที่เน้นการออกแบบจากวัสดุทางชีวภาพที่สามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้ โดยเฉพาะบริเวณพื้นรองเท้าที่ถูกผลิตจากส่วนประกอบทางชีวภาพที่ทำมาจากเมล็ดละหุ่ง 100%  เพื่อมอบความแข็งแรงทนทานและความยืดหยุ่น ขณะที่ เชือกรองเท้า  คอรองเท้าผ้าบุภายใน และลิ้นรองเท้าถูกผลิตด้วยวัสดุรีไซเคิลที่สามาถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ประมาณ 70%

Be Fast. Be Seen


Be Fast. Be Seen. Be Superfly



              ยามอยู่ในสนาม การมองเห็นเป็นสิ่งสำคัญ เพียงเสี้ยววินาทีนั้นอาจเกิดประตูที่น่าทึ่งหรือกลายเป็นการพลาดแบบเฉียดฉิว การออกแบบ เมอร์คิวเรียล ซุเปอร์ฟลาย ทรี ด้วยสีเรืองแสง ช่วยเพิ่มความโดดเด่นสะดุดตา ดังนั้นเพื่อนร่วมทีมจะเห็นคุณก่อนสิ่งอื่นใด
              หน้าผ้าไมโครไฟเบอร์ ซึ่งทำให้รองเท้ามีน้ำหนักเบาแต่ยังคงความแข็งแกร่ง สามารถปรับเปลี่ยนตามรูปทรงของเท้าเพื่อความสบายขณะส่วมใส่ยิ่งขึ้น
 และเทคโนโลยีปุ่มสตั๊ดอัจฉริยะช่วยเพิ่มความเร็วและการยึดเกาะสูงสุด
และสิ่งสุดท้ายที่คู่ต่อสู้ของคุณจะได้เห็นคือประกายสะท้อนจากส้นรองเท้าฟุตบอลที่ฉีกหนีไปไกลแล้ว
              พบกับ เมอร์คิวเรียล ซูเปอร์ฟลาย ของคุณได้ในวันที่ 1 เมษายนนี้      เร็ว สะดุดตา ด้วยซูเปอร์ฟลาย

adiCORE IV


 AdiCORE IV




                   adiCORE IV รองเท้าระดับกลางในสายการผลิตของรองเท้าฟุตบอลสายพันธุ์
คลาสสิคจากอาดิดาส  ในด้านของรูปร่างหน้าตาความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ นั้น จะอยู่ที่ลักษณะแนวด้ายเย็บรองเท้าบริเวณหัวรองเท้า  ซึ่งมีความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน  โดยลักษณะแนวด้ายเย็บรองเท้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่นนี้  ดูแล้วน่าจะส่งผลต่อความทนทานของตัวรองเท้าได้เป็นอย่างดี

Mizuno: Wave Ignitus


 Mizuno: Wave Ignitus



          มิซูโน่ รองเท้าฟุตบอลสัญชาติญี่ปุ่น ที่นักเตะชื่อดังหลายคนให้ความไว้วางใจเลือกมาสวมใส่ลงสนามกันอย่างมากมาย เช่น เคซูเกะ ฮอนดะ (Keisuke Honda) ที่ได้รับเกียรติให้มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับรองเท้า มิซูโน่ รุ่น "Wave Ignitus" รองเท้าฟุตบอลทรงพลังซีรี่ย์นี้ด้วย

          บริเวณหัวรองเท้าส่วนหน้า Wave Ignitus ทำด้วย หนังจิงโจ้ (Kangaroo Leather) มีชั้นหนังที่หนาเป็นอย่างมาก  และยังมีแนวด้ายเย็บที่ปราณีต ส่วนตั้งแต่ช่วงกลางรองเท้า ไล่ไปจนถึงด้านหลัง ใช้วัสดุประเภทหนังสังเคราะห์ (Synthetic Leather) เข้ามาตัดเย็บเป็นตัวรองเท้า  เพื่อสร้างความกระชับกับเท้าของผู้สวมใส่ 

          ลักษณะเด่นของรองเท้ารุ่นนี้ คือ แถบยางสัมผัสควบคุมลูกฟุตบอล ที่อยู่รอบ ๆ รองเท้า จึงทำสามารถควบคุมลูกฟุตบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะสัมผัสในทิศทางของรองเท้าก็ตาม นอกจากนี้ ยังมีแถบยางอยู่ที่บริเวณข้างเท้าด้านในตอนบน ซึ่งถ้าผู้สวมใส่วางเท้ายิง โดยให้ลูกบอลสัมผัสกับแถมยางนี้ จะทำให้ลูกฟุตบอลที่ยิงออกไปมีความแรง ทรงพลัง และพุ่งตรง สร้างความลำบากใจให้กับผู้รักษาประตูเป็นอย่างมาก

Umbro


 Umbro: GT Pro



          รองเท้าสายความเร็วของอัมโบร รุ่น "GT Pro" เป็นรองเท้าสุดฮิตของคนที่ชื่นชอบการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวและรวดเร็ว แถมยังมีรูปลักษณ์ภายนอกอันโดดเด่นไม่แพ้ใคร ซึ่งให้ความรู้สึกที่มีทั้งความเร็ว  ความแข็งแกร่งและความคลาสสิคไปในตัว

          GT Pro ทำด้วยวัสดุจากหนังสังเคราะห์เทจินไมโครไฟเบอร์แบบชิ้นเดียว (One piece Tejin micro-fibre) ซึ่งให้ผู้สวมใส่รู้สึกถึงความเบาสบาย และมีความทนทานสูง ขณะที่บริเวณข้างเท้าด้านในนั้น มีพื้นผิวสำหรับใช้ควบคุมทิศทางของลูกฟุตบอล เพื่อให้ลูกบอลที่เตะออกไปมีความแม่นยำราวกับจับวาง 

          นอกจากนี้บริเวณพื้นรองเท้าด้านนอกซึ่งทำมาจากอลูมิเนียม ซึ่งมีข้อดีตรงที่มีความทนทาน และสร้างความมั่นคง ทำให้นักเตะเคลื่อนที่ได้ดี ส่วนด้านในพื้นรองเท้ามี Poron ที่ช่วยรองรับแรงกระแทก และลดความเสี่ยงจากอาการบาดเจ็บได้

Puma



 Puma: King





          แม้ชื่อชั้นอาจไม่โด่งดังเหมือนยี่ห้ออื่น ๆ แต่ พูม่า ก็เป็นรองเท้าที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมไม่เป็นรองใคร ถึงจะไม่มีเทคโนโลยีใด ๆ เข้ามาช่วยให้การเล่นของนักฟุตบอลมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ Puma: King ก็เป็นรองเท้าสายพันธุ์คลาสสิคที่ผู้เล่นหลายคนให้ความสนใจอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะในแถบเอเชียบ้านเรา

          รองเท้าพูม่ารุ่น King ทำจากหนังจิงโจ้ (Kangaroo Leather) ที่มีความนุ่มและบางเป็นพิเศษ จึงช่วยให้ผู้เล่นสัมผัสถึงความนุ่มและสัมผัสที่ล้ำลึก นอกจากนี้ บริเวณส่วนหลังของรองเท้ายังทำด้วยวัสดุสังเคราะห์ไมโครไฟเบอร์ (Microfibre) ที่ช่วยเพิ่มความกระชับและสบายบริเวณข้อเท้า 

          บริเวณปุ่มรองเท้าทำจากวัสดุสังเคราะห์ เป็นปุ่มแบบ FG ซึ่งมีลักษณะกลมและค่อนข้างยาว ส่วนพื้นรองและหุ้มส้นด้านในทำจาก EVA foam สามารถถอดออกจากตัวรองเท้าได้ โดยรองเท้ารุ่นนี้จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 362 กรัม ซึ่งถือว่าค่อนข้างหนักพอตัว แต่ด้วยราคาที่ไม่แพงมาก จึงถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับคุณภาพของรองเท้าอยู่

CTR


 Nike: CTR 360 Maestri



          เป็นรองเท้าสายคลาสสิค ที่เน้นการคอนโทรลบอลและควบคุมบอลให้เคลื่อนไปในทิศทางที่ต้องการรุ่นหนึ่ง ที่บรรดาเพลย์เมคเกอร์ระดับโลกชอบใส่กัน ขนาดสุดยอดกองกลางคนหนึ่งของโลกอย่างอันเดรียส อิเนียสต้า ต่างก็หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของ CTR 360 ซึ่งตัวท็อปของซีรี่ย์นี้มีชื่อว่า "Maestri"

          ไนกี้เลือกใช้หนังสังเคราะห์ที่ทำเลียนแบบหนังจิงโจ้ เรียกว่า "Kanga-Lite Leather" โดยมีความนุ่มใกล้เคียงกัน แต่น้ำหนักเบากว่าเยอะ ส่วนบริเวณพื้นผิวรองเท้าที่มีลักษณะขรุขระ หรือที่เรียกกันว่า "Control Pad" นั้นจะทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมบอล และยังมี "Pass Pad" อยู่บริเวณข้างเท้าด้านใน ซึ่งจะช่วยให้การจ่ายบอลแม่นยำและได้น้ำหนักตามที่ผู้เล่นต้องการ

          ลักษณะเฉพาะตัวของ CTR 360 คือ การวางปุ่มรองเท้าเป็นวงกลม 3 ปุ่ม ซึ่งช่วยให้การกลับตัวเป็นไปด้วยความคล่อง และในส่วนของพื้นรองเท้ายังมี Poron ที่ช่วยลดแรงกระแทกจากพื้นสู่เท้าของผู้ใส่ ซึ่งมีผิวหน้าที่หยาบและเหนียวช่วยทำให้เท้าของผู้เล่นนั้นยึดเกาะกับตัวรองเท้าได้ดียิ่งขึ้น

Mercurial Vapor VIII


 Nike: Mercurial Vapor VIII





          ไนกี้ เอาใจนักฟุตบอลสายสปีดด้วยการปล่อยรองเท้าระดับท็อปอย่าง "Mercurial Vapor VIII"มาเขย่าวงการลูกหนังให้สั่นสะเทือน ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยว เท่ ทันสมัย จึงทำให้รองเท้ารุ่นนี้เตะตาต้องใจหลาย ๆ คน อย่างง่ายดาย

          ตัวรองเท้าทำด้วยหนังสังเคราะห์เทจิน ไมโครไฟเบอร์ (Tejin microfiber) ซึ่งคราวนี้มีการปรับเปลี่ยนหนังให้บางกว่าเดิม และมีผิวสัมผัสที่นุ่มขึ้น อีกทั้งตัวพื้นผิวรองเท้าก็จะมีลักษณะสาก ๆ ไม่มีการเคลือบผิวให้เงางามเหมือนรุ่นก่อน ๆ ส่วนรูปทรงรองเท้าก็ดูเรียวยาวกว่าเดิมเล็กน้อย ที่สำคัญรองเท้ารุ่นนี้มีน้ำหนักเพียงแค่ 187 กรัมเท่านั้นเอง เรียกได้ว่าเบาที่สุดเท่าที่ไนกี้เคยผลิตมา

          สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน คือ บริเวณปุ่มสตั๊ด จะมีการลดจำนวนปุ่มออกไปและมีการออกแบบแนววางปุ่มใหม่ทั้งหมด โดยไนกี้ยืนยันว่าแนววางปุ่มด้านหน้าแบบใหม่นี้ จะช่วยเพิ่มความเร็วและความแม่นยำของการเคลื่อนที่ ส่วนคู่ปุ่มด้านหลังก็ถูกลดจำนวนจาก 4 ปุ่ม  เหลือเพียง 2 ปุ่มเท่านั้น และส่วนพื้นตรงหัวรองเท้าที่ขรุขระเป็นฟันปลา (Toe-off Traction Spikes ) จะช่วยทำให้การสปรินซ์ออกตัววิ่งด้วยปลายเท้าทำได้ดีขึ้นอีกด้วย 

AdiPower Predator


 Adidas: AdiPower Predator




          นอกจากรองเท้าสายสปีดที่ขึ้นชื่อลือชาแล้ว อาดิดาสยังมีรองเท้าฟุตบอลสายพันธุ์พละกำลัง ที่คนในวงการฟุตบอลต่างให้การยอมรับในเรื่องคุณภาพอีกรุ่น คงต้องยกให้ "AdiPower Predator"ซึ่งเป็นตัวท็อปของรุ่น AdiPower เลยทีเดียว นอกจากนี้จุดเด่นที่สำคัญคือ เป็นรองเท้าที่มีน้ำหนักเบาที่สุดของอาดิดาส (ไม่นับรุ่น SL ที่เป็นรุ่นพิเศษ) โดยมีน้ำหนักเพียง 222 กรัมเท่านั้น

          วัสดุที่นำมาใช้ทำรองเท้า ได้แก่ หนังลูกวัวกระทิง (Calf-skin leather) ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทานและมีความหนานุ่มมาก ซึ่งลักษณะพิเศษของรองเท้ารุ่นนี้ ที่หลายคนให้ความสนใจ คือ แถบยางปั่นโค้ง (Element Technology) ที่อยู่บริเวณสันเท้าของข้างเท้าด้านใน โดยรูปแบบของแถบยางจะมีมิติมากขึ้น และนิ่มขึ้นเล็กน้อย

          มากไปกว่านั้น AdiPower Predator มาพร้อมกับเทคโนโลยี Sprint Frame ทำให้ชุดพื้นแบบใหม่นี้มีน้ำหนักเบาขึ้น เคลื่อนไหวได้คล่อง และเทคโนโลยี Power Spine ที่ฝังอยู่กับชุดพื้น ซึ่งทำหน้าที่ถ่วงน้ำหนักเป็นจุดศูนย์ถ่วง เพื่อเพิ่มพละกำลังให้กับลูกฟุตบอลที่ส่งออกจากเท้า เหมาะกับนักเตะที่มีสไตล์การเล่นดุดันและต้องการความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง

F50



 Adidas: F50 adiZero 





          อาดิดาส ไม่ค่อยทำให้แฟน ๆ ต้องผิดหวังอยู่แล้ว เกี่ยบกับเรื่องดีไซน์และคุณภาพของรองเท้า ซึ่งตอนนี้รุ่นที่กำลังได้รับความนิยมมากที่สุด คือ "F50 adiZero" รองเท้าฟุตบอลสายพันธุ์แห่งความเร็ว ที่นักเตะหลายคนต่างยกนิ้วให้กับความยอดเยี่ยมของมัน

          โดยรุ่นล่าสุดนี้ นอกเหนือจากเฉดสี ลวดลายและอุปกรณ์ที่เปลี่ยนไปแล้ว อาดิดาสยังคงเลือกที่จะบุกตลาด ทั้งเวอร์ชั่นหนังสังเคราะห์ (Synthetic Leather) มีน้ำหนัก 165 กรัม และหนังวัวแท้ (Full-Grain Leather) มีน้ำหนัก 170 กรัม ให้ผู้เล่นได้เลือกใส่กันได้ตามใจชอบ โดยมาพร้อมกับ "Sprint Web" วัสดุที่จะช่วยให้การสัมผัสและควบคุมลูกฟุตบอล เป็นไปอย่างที่ใจต้องการ อีกทั้งยังช่วยพยุงโครงสร้างรองเท้าให้มีความแข็งแรง ซึ่งจังหวะการสปรินซ์ตัววิ่งด้วยความเร็ว จะทำได้อย่างมั่นคงขึ้นกว่าเดิม 

          ที่สำคัญทางอาดิดาสยังได้ใช้เทคโนโลยีในการเก็บข้อมูลที่เรียกว่า "Mi Coach" เข้ามาประยุกต์ใช้กับรองเท้า เพื่อให้ผู้สวมใส่ได้ทราบข้อมูลต่างๆ ในการลงสนามได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าผู้เล่นในสายสปีดจะต้องถูกอกถูกใจกับรองเท้ารุ่นนี้อย่างแน่นอน

ไนกี้ Mercurial Vapor IX


ไนกี้ Mercurial Vapor IX
 

                   หากถามถึงรองเท้าฟุตบอลที่ร้อนแรงที่สุดประเดิมต้นปี 2013  ก็คงจะหนีไม่พ้น เจเนอเรชั่นที่ 9 ของตระกูลรองเท้าฟุตบอลสายพันธุ์จรวดทางเรียบจากไนกี้  นั่นคือ Mercurial Vapor IX ซึ่งในเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดนี้  ได้แรงบันดาลใจในการพัฒนามาจากรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ ระดับโลก อย่าง แลมเบอร์กินี่ กัลลาร์โด้



แนวทางการเลือกซื้อรองเท้า


แนวทางการเลือกซื้อรองเท้า


         ประเภทของพื้นรองเท้า
เป็นส่วนช่วยในการรับแรงกระแทกและการทรงตัว เป็นส่วนสำคัญอีกอย่างที่ต้องนึกถึงเวลาเลือกซื้อเพราะการใช่พื้นผิดประเภทอาจส่งผมกับการบาดเจ็บทั้งในระยะยาวได้(พวกข้อต่อ เช่นข้อเท้า หรือเข่า)
HG=HardGround พื้นแข็ง ถึงแข็งมาก ปุ่มจะค่อนข้างสั้น เมืองไทยส่วนใหญ่จะเป็นสนามแบบนี้ครับ
SG=SoftGround พื้นนิ่ม แฉะ มักจะเป็นแบบหกปุ่ม และปุ่มเหล็ก เมืองไทยไม่ค่อยให้ใส่ทำการแข่งขัน และหาสนามเตะยาก
FG=FirmGround พื้นปานกลาง โดยทั่วไปสตั๊ดทุกรุ่นและทุกยี่ห้อจะใช้ปุ่มลักษณะนี้ เหมาะกับสนามของไทยในปัจจุบัน
AG=Artificial Grass/Ground ตรงตัวเลยครับ สนามหญ้าเทียม
MG=MultiGround เหมาะกับทุกสภาพสนาม เป็นปุ่มกลมขนาดปกติ แต่จะมีจำนวนปุ่มเยอะกว่าแบบธรรมดา
TF=Turf รองเท้าร้อยปุ่ม ส่วนใหญ่ใช้กับหญ้าเทียม


         การเลือกซื้อรองเท้าฟุตบอล
-ควรเลือกซื้อเวลาเย็นหรือช่วงค่ำเพราะช่วงเวลานั้นเท้าจะขายเต็มที่
-ถ้าไม่แน่ใจไซส์ของรองเท้าควรลองด้วยตัวเองก่อนซื้อ เพราะบางยี่ห้อไซส์เดียวกันแต่ขนาดไม่เท่ากัน(ถ้าซื้อผ่านเว็บแล้วไม่แน่ใจ ไปลองที่ห้างก่อน ได้ขนาดที่พอดีแล้วบอกคนขายว่ามันบีบไปเอาไว้ก่อนดีกว่า แต่อย่าใช้บ่อยน่ะครับ มันไม่ปลอดภัย ผมเตือนคุณแล้ว   )
-เท้าบานควรเลือกเป็นแบบหนังสัตว์ เพราะจะขยายตัวได้ดีกว่าหนังสังเคราะห์ หรือเลือกที่เป็นแบบ widefit ตรงส่วนปลายเท้าจะกว้างกว่าปกติแต่จะมีขายเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น
-งบประมาณ หากมีจำกัดลองมองของไทยทำดูน่ะครับมีหลายยี่ห้อ ทั้งหนังแท้และหนังสังเคราะห์ คุณภาพไม่ได้หนีกันซักเท่าไหร่
-ของแท้ดีกว่าของเทียม(ของก๊อป) อันนี้สำคัญมากจะก๊อปเหมือนแค่ไหน ดูเนียนตาอย่างไร ประสิทธิภาพและความทนทานไม่เท่าของแท้แน่นอนอีกทั้งของแท้ยังสามารถช่วยลดการบาดเจ็บจากการเล่นได้ดีกว่าอีกด้วย

ความรู้เล็กๆน้อยๆ


ความรู้เล็กๆน้อยๆ




 สิ่งสำคัญอันดับต้นๆของการเล่นฟุตบอลคือรองเท้าฟุตบอล(สตั๊ด) นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นแล้ว(แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม) ยังช่วยลดการบาดเจ็บได้ส่วนหนึ่งด้วย

ประเภทของรองเท้าฟุตบอล ปัจจุบันแบ่งได้ดังนี้
1.SPEED เน้นความเร็ว มีความเร็ว และความเบาของรองเท้าเป็นจุดขาย
2.POWER เน้นการยิงที่รุนแรง ส่วนใหญ่จะมีแถบยางเป็นส่วนประกอบช่วยเพิ่มความหนักหน่วงในการยิง
3.CONTROL (ในบางเว็บเรียก HERITAGE) เน้นการควบคุม-จ่ายบอล ใส่สบายเพราะทำจากหนังสัตว์ รองเท้าในหมวดนี้จะออกแนวๆคลาสสิคครับ

วัสดุ
   หนังสัตว์(หนังวัวกระทิง, หนังจิงโจ้, หนังวัว) เหมาะสำหรับคนเท้าบานเพราะหนังสัตว์จะขยายตัวได้ดี มีความนิ่ม สวมใส่สบาย ทนทาน แต่ไม่ถูกกับความชื้นซักเท่าไหร่
   หนังสังเคราะห์ ส่วนใหญ่จะใช้กับรองเท้าสาย Speed เพราะเน้นที่ความเบา ไม่อมน้ำ ไม่เหมาะสำหรับคนเท้าบาน เพราะการขายตัวจะไม่ดีเท่ารองเท้าที่ทำจากหนังสัตว์

ประเภทของรองเท้าแบ่งตามยี่ห้อ
ADIDAS
   Speed: F Series, Adizero นักเตะที่ใส่ เมสซี่, นานี่
   Power: Predator นักเตะที่ใส่ เจอร์ราด, เบ็คแฮม, เบอร์บาตอฟ
   Control: Copa, Adipure นักเตะที่ใส่ กาก้า, แลมพาร์ด
NIKE
   Speed: Mercurial Vaper นักเตะที่ใส่ โรนัลโด้, ปาโต้, ดร็อกบา
   Power: Laser นักเตะที่ใส่ รูนีย์, ตอเรส
   Control: Tiempo, CTR นักเตะที่ใส่ เตเวซ(Tiempo), ฟาเบรกัส(CTR)
PAN(เอาใจสปอนเซอร์เราหน่อย)

วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Adidas F50 Adizero


 Adidas F50 Adizero

 
                     รองเท้าสายความเร็วรุ่นใหม่ล่าสุดจาก ADIDAS ที่พัฒนารูปแบบและความสามารถในเรื่องความเร็ว โดยใช้ miCoach เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่สามารถวัดสมรรถภาพของผู้สวมใส่ และเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่มขึ้นในรองเท้ารุ่นนี้ อาทิ Sprint Web , Sprint Frame ทำให้ F50 adiZero เป็นรองเท้าสายความเร็วที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้
                     จุดเด่นโดยรวม ::  รองเท้าฟุตบอล Adidas F50 Adizero (miCoach) อยู่ที่น้ำหนักเบา รูปทรงกระชับเท้าและใส่สบาย สามารถเร่งสปีดได้เต็มที่ในขณะออกตัว และเพิ่มความแม่นยำในการเคลื่อนที่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความว่องไว ปราดเปรียว